เนื้อเรื่องย่อ (Synopsis) :
ณ งานประกาศรางวัลงานเขียนยอดเยี่ยมที่จัดเป็นประจำทุกปี นวนิยายเรื่อง “โบตั๋นกลีบสุดท้าย” จากผู้เขียนที่ใช้นามปากกา สำเภาทอง ได้รับรางวัลนวนิยายยอดเยี่ยม ในขณะที่นวนิยายเรื่อง “ปีกมัจจุราช” ของ มนชนก ซึ่งในนามปากกาว่า “แก้วพรรณราย” ต้องพลาดรางวัลไปอย่างพลิกล็อค เพราะมนชนกไม่คิดว่าสำเภาทองซึ่งเธอไม่เคยรู้จักว่าเขาเป็นใครจะเปลี่ยนแนว การเขียนจากแนวเมโลดราม่า มาเป็นแนวสะท้อนปัญญาครอบครัว ไม่เคยมีใครรู้ว่า “สำเภาทอง” มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร รู้แต่เพียงว่าเขาคือชายหนุ่มเชื้อสายจีนที่มีลีลาการเขียนนวนิยายที่พลิ้ว ไหว ระดับแนวหน้าของเมืองไทย โดยมี ดนัยเลขาส่วนตัว ส่งต้นฉบับให้สำนักพิมพ์ต่างๆ และเป็นผู้ติดต่อและประสานงานทั้งหมด
แท้ ที่จริงสำเภาทองคือ ธีรเดช หรือ อาจู ลูกชายคนสุดท้องของอาเซงกับเหมยหลิง สองสามีชาวจีนขายข้าวมันไก่ เป็ดพะโล้จนสามารถส่งเสียลูกชายทั้ง 3 คนก็คือ ธีรชัย หรืออาโจว , ธีรชาติ หรือ อาจิว และธีรเดช หรือ อาจู จนจบปริญญาตรี ในสายตาของอาเชง อาจูมักเป็นลูกชัง ส่วนอาโจวและอาจิวนั้นเป็นลูกรัก อาโจวเข้าทำงานกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์และแต่งงานกับจรัสศรี ลูกข้าราชการใหญ่ อาจิวเข้าทำงานธนาคาร ส่วนอาจูนั้นรักการเขียนจึงตัดสินใจรับงานเขียนประเภทนวนิยายนิตยสาร และเมื่ออาจูรู้ว่าพ่อมักจะใช้เวลาว่างในการอ่านนิตยสาร “ระเบียงบึง” อาจูจึงตัดสินใจที่จะใช้งานเขียนของตน โดยที่พ่อไม่เคยรู้ว่า “สำเภาทอง”คือนามปากกาของตน เป็นสื่อกลางในการให้แง่คิดและเปลี่ยนทัศนคติของผู้เป็นพ่อ
|